วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2552

ศัพท์น่ารู้จากประเด็นการเมือง

Petition (n.) อ่านว่า เพอะ-ทิ-ชั่น แปลว่า ฎีกา
Ex. The United Front for Democracy against Dictatorship (UDD) submitted the petition seeking a royal pardon for fugitive former prime minister Thaksin Shinawatra to the Office of His Majesty's Principal Private Secretary on 17 August.
แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช.)ได้ยื่นฎีกาต่อสำนักเลขาธิการ สำนักพระราชวังเมื่อวันที่17ส.ค. เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งกำหลังหลบหนีอยู่





เกร็ดความรู้ : คำว่า petition ไม่ได้แปลว่า ฎีกา อย่างเดียวนะจ๊ะ แต่ยังใช้ในความหมายของ คำร้อง ได้ด้วย เช่น ในกรณีการยื่นคำร้องต่อเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือยื่นคำร้องต่อศาลก็ได้นะจ๊ะ

วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

มาเฉลยข้อสอบ GAT กัน

อ่า.... หลังจากที่สอบแกทกันไปแล้ว เพื่อนๆมาช่วยกันเฉลยข้อสอบแกทกันดีกว่า เริ่มต้นจากที่เราจำได้ก่อนนะ



อันไหนไม่เข้าพวก
1 .a. practical b. absurd c. feasible d. possible

ตอบไรกันบ้างเอ่ย.....

เฉลย ข้อ b นะ
absurd[ADJ] ไร้สาระ
practical [ADJ] ที่ขึ้นอยู่กับความเป็นจริง,ใช้ได้จริง
feasible [ADJ] ซึ่งเป็นไปได้
possible [ADJ] เป็นไปได้

อ่า.. เป็นไงกันบ้างข้อแรกทำถูกกันมั๊ยเอ่ย

2. a. complete b. through c.inclusive d. comprehensive

ติ๊กต็อกๆๆๆ ......................ปิ๊งงง

เฉลย ข้อ b ค่ะ (ใครที่วันศุกร์ได้ที่คำศัพท์ที่เราทำแจก ต้องดีใจแน่ๆเลย ออกตรงเป๊ะ555+)
through [PREP/ADV] ผ่านไป
complete [ADJ] ทั้งหมด
inclusive [ADJ] รวมด้วย Related. ครอบคลุม, กินวงกว้าง, รวมทุกอย่าง, ทั้งหมด
comprehensive [ADJ] ที่ครอบคลุม

3. a. lenient b. strict c. supple d. yielding

1 2 3 ............10

เฉลย ข้อ b ค้าบพี่น้องงงงง (น่าจะเป็นข้อนี้นะ ดูความหมายโดยรวมๆเอา แต่ก็นะข้อนี้ยากอยู่ อยากฆ่า สทศ. อ๊ากกกกกก)
strict [ADJ] เข้มงวด
lenient [ADJ] ปรานี
supple [ADJ] ยอมตาม /ปรับตัวได้ง่าย
yielding [ADJ] ยินยอม

4. a. determined b. persistent c. exultant d. tenacious

คิดๆๆๆๆๆๆ .................

เฉลย ข้อ c จ้า........ [อยากบอกว่าข้อนี้ยากกกก เพราะหยีเคยเจอศัพท์ แค่2ตัวในนี้ สงสัยคนออกต้องคิดว่าเราเปนคนเขียนดิกแน่ๆ 55]

exultant [ADJ] ปิติยินดี
determined [ADJ] ดื้อดึง /เด็ดเดี่ยว
persistent [ADJ] ดื้อ
tenacious [ADJ] ที่ไม่ยอมง่ายๆ


5. a. rest b. relax c. uptight d. unwind

...........................................

เฉลย ข้อ c ค่ะ [ข้อนี้ง่ายสุดและเท่าที่ทำมา]

ไม่ต้องขิ้นมากเลย uptight= ตึงเครียด
ส่วนคำอื่นก็แปลว่าพักผ่อน นะจ๊ะ

อ่าๆๆ แล้วมาเช็คคะแนนกันซิ ว่าตอนนี้ได้เท่าไหร่เเล้ว (เราเฉลยเอง นะจ๊ะ ผิดพลาดไงก็ช่วยบอกด้วยนะ)





*****อ่า............เราก้อเป็นเพียงแค่เดก ม.6 คนนึงเรารู้ว่าเรา ไม่ได้เก่งไรเลย เราไม่ได้อวดเก่งหรืออวดรู้ เราต้องการกำลังใจ ไม่ใช่การดูถูก
หยุดเถอะนะคำพูดที่ทำร้ายจิตใจเรา
ถือซะว่า สงสารคนๆนึงเถอะนะ

วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

About Asia University



Founding Principles and Mission




Asia University fosters a spirit of self-help and cooperation. These ideals were first proposed by the university's founder, Kozo Ota, who wrote the following in his Our Founding Principles--Cultivating the Spirit of Self-Help and Cooperation :The spirit of 'self-help,' the inspiration behind the establishment of this institution, encourages individuals to achieve personal autonomy, and to look to themselves as the greatest source of aid. Individuals must carve out their fate by virtue of their own efforts. . . . It is said that the flower of cooperation grows from the root of self-help.




Since its establishment in 1941, Asia University has, as its mission, extended this spirit of self-help and cooperation into the international community. As stipulated in article one of the Asia University School Regulations, "The mission of this institution is to nurture minds capable of achieving an integrated Asia, with priority being placed on conducting research and taking constructive action relating to Asian culture and society." The university has remained true to this mission by providing the finest educational programs possible for its students so that upon graduation they may make a positive contribution to Japanese society, to the development of Asia and to the greater international community. The recent surge of growth in Asia is eloquent testimony to the foresight of the university's ideals.



Origins and History


In 1941, Koa Senmon Gakko--Koa Professional School opened its doors on the site of the present Asia University campus. The school was founded with the underlying belief that education should be based on a spiritual closeness between teachers and students. It was a unique school at the time, as it accommodated all students in dormitories divided by course of study (Continental Asia, Southern Pacific Islands and the Homeland). In the same year, the Koa Educational Foundation was established with the aim of contributing to Asian nations


In 1945, following the end of WWII, Kozo Ota was appointed president, and the institution made a new beginning as Nihon Keizai Senmon Gakko--Professional School of Japanese Economics. In 1950, as Japan experienced educational reforms, the institution was reorganized again as Nihon Junior College of Economics. For a number of years after WWII, relations with other Asian countries were almost nonexistent. Thus, in 1954, a Foreign Student Department was established within the college in an attempt to resume relations with other Asian countries. Consequently, Nihon Junior College of Economics became the first college in post-war Japan to accept a substantial number of foreign students


Finally, in 1955, Asia University was established with a single department, the Faculty of Commerce. As the result of subsequent expansion and reorganization, the university is now comprised of four faculties: the Faculty of Business Administration, the Faculty of Economics, the Faculty of Law, and the Faculty of International Relations. Graduate schools offering Master's degrees in Economics, Business Administration and Law were established in 1974 followed by doctoral programs in 1976. Asia University Junior College, the former Nihon Junior College of Economics, still maintains a business studies program.



วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ศาสนาอียิปต์โบราณ

วันนี้เรากำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ แล้วเราก็อ่านของ อ.ศศิพรรณ มันมีศาสนาหนึ่งที่ตายไปแล้ว คือ ศาสนาอิยิปต์โบราณ <ต๊ายย เพิ่งรุว่ามี>
เราก็เลยหาในเน็ตดูแล้วเอามาฝากเพื่อนๆ

ศาสนาอียิปต์โบราณศาสนาอียิปต์โบราณถือกำเนิดขึ้นในแผ่นดินที่เรียกว่าอียิปต์ หรือ ไอยคุปต์ สมัยโบราณ ซึ่งตั้งอยู่บนทวีปอาฟริกาตะวันออกเฉียงเหนือ มีเนื้อที่ทั้งหมดเมื่อ 7,000ปี ไม่กว้างใหญ่มากนัก ยาวไปตามลำน้ำไนล์ ในปัจุบันอียิปต์มีเนื้อที่ 383,000 ตารางไมล์ ทิศเหนือติดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทิศตะวันออก ติดทะเลแดง ทิศตะวันตกและทิศใต้มีทะเลทรายเป็นขอบเขต มีทางติดต่อกับทวีปเอเชียโดยอาศัยคลองสุเอซเป็นแนวสะพานจากชนกลุ่มต่างๆที่มารวมตัวกันตามลุ่มน้ำไนล์ ซึ่งแต่เดิมนั้นชนกลุ่มต่างๆนี้ไม่มีความรู้ในเรื่องภูมิศาสตร์ ไม่มีใครรู้ว่าลำน้ำสายนี้เกิดมาได้อย่างไร ไหลมาจากที่ไหน เพราะอะไรจึงให้ผลแก่ชาวไร่ เพราะอะไรจึงไหลบ่า ท่วมท้น จนเกิดความเสียหายล้มตาย ความไม่รู้เหล่านี้เอง จึงกลายเป็นบ่อเกิดแห่งศาสนาและศรัทธา

คติแห่งศรัทธา M.Marittite นักปราชญ์ชาวฝรั่งเศส อ้างผลการสำรวจของ Herodotus ผู้เป็นปราชญ์ในสมัยกรีกโบราณ ไว้ในบันทึกของตนว่า...การนับถือศาสนาของอียิปต์โบราณนั้นสามารถแบ่งประเภทแห่งศรัทธาให้ศึกษาได้ดังนี้...
1. การนับถือสัตว์เป็นพระเจ้า
2. การนับถือดวงวิญญาณ
3. ศพอาบยา และ มรณะคัมภีร์
4. พิธีกรรมและนักบวช
5. หมวดหมู่ ของเทพเจ้า
6. อิทธิพลของศาสนา

การนับถือ สัตว์เป็นพระเจ้า

จะเห็นได้ว่าตามหัวเมืองใหญ่ๆ จะมีรูปปั้นสัตว์นานาชนิด ประดิษฐานอยู่ตามเทวสถานและประตูเมือง เป็นรูปเคารพอย่างหนึ่ง นับเป็นหนึ่งในจำนวนเทพประจำหัวเมือง ทั้งนี้เนื่องจากว่าสัตว์แต่ละประเภทมีความสำคัญในตัวของมันเอง สามารถทำประโยชน์แก่มนุษย์

ความสัมพันธ์ระหว่างสัตว์กับมนุษย์ ซึ่งเป็นเหตุให้สัตว์มีฐานะเป็นเทพเจ้า มีปรากฏดังนี้

- นับถือโดยคุณลักษณะ เช่น สุนัขมีความซื่อสัตย์ต่อมนุษย์ผู้เป็นเจ้าของ, นกเหยี่ยวที่บินอยู่ในอากาศ มีความอาจหาญในการโฉบเฉี่ยวอาหาร, แม่โค มีหน้าที่รับใช้ในเวลาปลูกพืชและให้นมแก่ผู้เยาว์วัยจึงเป็นตัวแทนของความอดทนและความกรุณาปรานี, แมลงทับซึ่งมีอยู่มากตามต้นปาปิรุสที่ขึ้นริมฝั่งแม่น้ำไนล์มีความขยันหมั่นเพียรในการสร้างที่อยู่ จึงเป็นตัวแทนของความเจริญ

*** แมลงทับ....มีปีกเป็นสีเหลือบทอง และมักเกาะกินตามต้นปาปิรุส ซึ่งชาวอียิปต์เอามาใช้เป็นกระดาษเขียนหนังสือ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของโลก ในสมัยอียิปต์โบราณแมลงทับ เป็นสัตว์ประหลาด เนื่องจากสีเหลือบทองของปีกแมลงทับ ทำให้เวลาดูจากมุมมองต่างๆกันจะเห็นเป็นแมลงทับมีสีที่ต่างกัน บางทีก็สีทอง บ้างก็สีเขียว และจากความไม่รู้มูลเหตุที่มาของสีที่ต่างกันของแมลงทับ ชาวอียิปต์จึงอาศัยความไม่รู้นั้นกำหนดว่าแมลงทับเป็นสัตว์วิเศษและเป็นเทพเจ้าองค์หนึ่งความวิเศษของแมลงทับที่สำคัญที่สุดคือ เป็นสัตว์ที่สร้างที่อยู่อาศัยโดยการใช้ปีกขนเอาดินมาทีละน้อย จนเป็นรังใหญ่ ชาวอียิปต์โบราณจึงถือว่าแมลงทับเป็นสัตว์น่าเคารพ เพราะเป็นตัวแทนของพระเจ้าที่สร้างโลก คติเรื่องการสร้างโลกจึงกำเนิดขึ้นโดยอาศัยแมลงทับ....

***ว่ากันเรื่องการสร้างโลก ความคิดของชาวอียิปต์เองก็ไม่สามารถหาข้อยุติได้ แต่ที่เชื่อกันเป็นส่วนมากคือ เชื่อว่า เดิมนั้นจักรวาลเป็นที่มืด เป็นมหาสมุทร มีแต่น้ำ ต่อมาก็มีดอกบัวหลวงดอกหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากน้ำ ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นจากบัวหลวงดอกนั้น แล้วลอยขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้า และดอกบัวดอกนั้นกลายเป็นโลก

- สัตว์ประเภทต่างๆสมัยอียิปต์โบราณ ทำประโยชน์ให้มนุษย์มาก ทั้งในยามสงบ และยามสงคราม เมื่อกษัตริย์เสด็จออกศึก ก็จะทรงเลือกเอาสัตว์ที่เป็นกำลังในสงครามไปด้วย เช่น ม้า สิงโต เมื่อชนะศึกกลับมาก็จะทำพิธีบูชา...สุดแต่สัตว์นั้นไปทำความดีอะไรให้ มนุษย์ก็ยอกกราบไหว้สัตว์นั้น ข้อนี้แสดงให้เห็นว่า ชาวอียิปต์โบราณเป็นชาติที่รู้จักบุญคุณของสัตว์ และเป็นเครื่องแสดงใด้ว่ามนุษย์เป็นผู้สร้างเทพเจ้า มิใช่เทพเจ้าเป็นผู้สร้างมนุษย์

จากการขุดค้นของนักโบราณคดี ที่ห้องเก็บศพของกษัตริย์ พบภาพต่างๆที่อยู่ตามผนังปีรามิด ซึ่งสลักบนแผ่นหิน มี่รูปสัตว์ต่างๆ เช่น นกเหยี่ยว, สุนัข แม่โค สัตว์เหล่านี้มีนิยายที่เกี่ยวข้องอยู่กับเรื่องดวงวิญญาณ ซึ่งจะกล่าวถึงต่อไป...

- เทพเจ้าต่างๆเป็นเพียงปรากฏการณ์ซึ่งสมมุติในความคิด ที่จริงปราศจากรูปร่าง แต่ชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่า หากเทพเจ้าไม่ได้อวตารลงมาในร่างใดร่างหนึ่งแล้ว ก็ไม่มีสิ่งใดซึ่งเป็นรูปให้ยึดถือกราบไหว้ได้ แต่รูปอะไรก็ไม่ดีเท่ารูปที่เห็นกันอยู่ ดังนั้น ชาวอียิปต์จึงตั้งสัตว์ที่มีคุณแก่มนุษย์ก็ดี สัตว์ที่มีความสามารถหรืออำนาจในตัวมันเองก็ดี เป็นรูปแห่งการอวตารของเทพเจ้า

**ข้อนี้ ชวนให้ระลึกถึงหลักจิตวิทยาที่ว่า...มนุษย์จะได้ความรู้สึกครั้งแรกจากสายตา และมีความพอใจเมื่อมีรูปมาสัมผัสทางกาย ยิ่งกว่าการสัมผัสทางใจ

การนับถือสัตว์เป็นร่างอวตาร ได้ก้าวหน้ามาเป็นลำดับจนกระทั่งเมื่อกษัตริย์ Menes ได้รวมอียิปต์บนและ อียิปต์ล่างเป็นดินแดนเดียวกัน และตั้งเมือง Memphis เป็นเมืองหลวง และยกมหาเทพ.... Ptah หรือ Amenra (เทพแห่งดวงอาทิตย์) เป็นมหาเทพแห่งอียิปต์

พระเจ้า Menes ทรงจัดการปกครองใหม่ พร้อมกับจัดระเบียบการนับถือเทพเจ้าใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดความยุ่งเหยิงทางศาสนาเป็นเหตุให้เกิดความยุ่งเหยิงทางบ้านเมือง โดยการจัดระเบียบการนับถือเทพเจ้าใหม่นี้.... พระเจ้า Menes ว่าทรงบัญญัติใหม่ว่า...แต่เดิมบรรดาเทพเจ้าที่เคยอวตารสถิตย์ในร่างของสัตว์นั้น ..สมควรให้อวตารลงมาในรูปคนกันเสียที ตั้งแต่สมัยนั้นเป็นต้นมา เทพเจ้าของอียิปต์จึงเป็นคนมากกว่าสัตว์ บ้างมีตัวเป็นคนหัวเป็นสัตว์ก็มี บ้างก็มีตัวเป็นสัตว์หัวเป็นคนก็มี

สัตว์ประเภทต่างๆที่ชาวอียิปต์นับถือเป็นเทพเจ้ามีอยู่เกือบ 100 ชนิด ส่วนมากเป็นสัตว์น้ำและสัตว์ป่า มีการออกกฎหมายห้ามชาวประมงและนักล่าสัตว์ฆ่าสัตว์หลายชนิด ถ้าใครฆ่าสัตว์ที่มีค่า ที่มีการขึ้นบัญชีว่าเป็นอวตารของเทพเจ้า ก็จะมีโทษถึงประหารชีวิต สัตว์ที่ได้รับการเคารพบูชามากที่สุดได้แก่ แม่โค ซึ่งได้รับความนับถือว่าเป็นอวตารของพระนาง Isis ส่วนพ่อโค เป็นอวตารของ Osiris

รูปของ Isis และ Osiris นั้นบนศีรษะจะเป็นรูปดวงอาทิตย์ ขึ้นในระหว่างภูเขา ซึ่งสมมติ เป็นรูปเขาโคทั้ง 2 ข้าง ที่หน้าผากมีจุดขาว ขนดำสนิทเรียกว่า Abis จากรูปซึ่งแสดงนี้ โคจึงเป็นเครื่องหมายของดวงอาทิตย์ด้วย

ต่อมา มีการนับถือพ่อโค แม่โค ว่าแทนดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ กล่าวคือ พ่อโค คือตัวแทนของ Osiris เสมือนดวงอาทิตย์ที่ให้ความสว่างในตอนกลางวัน ส่วนแม่โค คือตัวแทนของ Isis เปรียบเสมือนดวงจันทร์ที่ให้ความสว่างในเวลากลางคืน (ซึ่งถ้าดูจากเทพนิยายแล้ว Isis และ Osiris เป็นกษัตริย์ สามี-ภรรยาที่ต้องพลัดพรากจากกัน เช่นเดียวกับดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ )

จากการขุดค้นของนักโบราณคดี เมื่อ คศ.1852 พบซากเมืองเมมฟิส และได้พบรูปปั้นโคเป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่า โคได้รับการยกย่องเป็นเทพเจ้าชั้นสูง ประจำเมืองเมมฟิส ซึ่งนับเป็นเมืองที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของอียิปต์โบราณ

สัตว์ประเภทใด ถ้ามีผู้รับนับถือว่า ศักดิ์สิทธิ์ อยู่ในเมืองใด ก็จะมี อำนาจขอบเขตอยู่ในเมืองนั้น ไม่ปะปนกัน สัตว์ทุกประเภทที่ชาวอียิปต์เชื่อว่าเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ก็มีความศักดิ์สิทธิ์จริง เท่ากับเทพเจ้า หรือคนสำคัญคนหนึ่ง โดยหลักแห่งศรัทธาของชาวอียิปต์โบราณ เชื่อว่าสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ เหล่านี้มีวิญญาณที่ไม่ดับสูญเช่นเดียวกับคน ดังนั้นเมื่อสัตว์นั้นตายลง คนที่นับถือสัตว์ จึงทำมัมมี่สัตว์ไว้เช่นเดียวกับมัมมี่คน ถ้าไม่ทำเป็นมัมมี่ ก็มักทำเป็นรูปปั้นสัตว์นั้น ใส่ลงในหีบสลักหิน ฝังไว้ในอุโมงค์เช่นเดียวกับคน จากการขุดค้นของนักโบราณคดี ตามหัวเมืองต่างๆ มีการพบรูปปั้น สัตว์ในหีบสลักหิน และมัมมี่สัตว์ชนิดต่างๆ เช่น แพะ สุนัข นก จระเข้ แมว โค งู แมลงทับ ฯลฯ

สรุปแล้วการนับถือสัตว์เป็นเทพเจ้า เพราะชาวอียิปต์มีศรัทธาในคุณลักษณะความดี ความกล้าหาญของสัตว์ และมีความกตัญญู ต่อสัตว์ที่ทำประโยชน์ให้แก่ตนด้วย ชาวอียิปต์ก็คือคนที่มีความกลัวต่อความลึกลับที่ตนไม่สามารถหาต้นสายปลายเหตุได้ เช่นเดียวกับคนโบราณทั้งปวง


เครดิต http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=mysmallroom&date=17-07-2006&group=5&gblog=3

วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

you are not alone

Michael Joseph Jackson "King of pop"[August 29th,1958-June 25,2009]

''You are not alone''

วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Vamos a estudier Castellano มาเรียนภาษาเสปนกันเหอะ

วันนี้ มาเรียนภาษาเสปนกันดีกว่า
ดีมั้ย
[ ทุกคนตอบว่า ดี! ]
ขอบคุณ
*
*
*
หมายเหตุ
Espanol (เอสปาลญ่อล ที่จริง n = เอญเญ่) เป็นภาษาเสปนแท้
แต่
คนอาร์เจนติน่าเรียกภาษาเสปนที่ตัวเองใช้ว่าCastellano (กาสเตช้าโน่)
คำแรก
Hola
ไม่ได้อ่านว่า โฮ - ล่า
แต่ อ่านว่า โอ๊-หล่า
เพราะ ตัว H (อาช เช่)ในภาษาเสปนไม่ออกเสียง
คำนี้ แปลว่า สวัสดี
Como estas
โก๊-โม่ เอส-ตัส
แปลว่า เป็นอย่างไรบ้าง/สบายดีไหม ?
ตัว C (เซ)กับสระ A,O,Uจะออกเสียง กา โก กู
แต่ถ้า อยู่กับ E และ I จะออกเสียง เซ ซิ
ส่วนตัว T (เต) จะออกเสียงเป็น ต.เต่าเสมอ
Bien
เบียน
แปลว่า ดี / สบายดี
*******************************
MUY
มุ๊ย
แปลว่ามาก
************************************
ถ้าจะบอกว่า ดีมาก
ก็ต้องบอกว่า Muy + Bien = Muy Bien
อ่านว่า มุ๊ย เบียน
**************************************
แต่ถ้าไม่สบาย
ต้องบอกว่า No estoy Bien
อ่านว่า โน เอสตอย เบียน
estoy แปลว่า กำลังเป็นอยู่
Mas o Menos
อ่านว่า มาส โอ เมโนส
แปลว่า เฉยๆ / soso
Mas แปลว่ามาก หรือ บวก
o แปลว่า หรือ
Menos แปลว่า น้อย หรือ ลบ
เมื่อพูดคำนี้ คนอาร์เจนติน่าจะ พลิกมือกลับไปกลับมา ไปด้วย
Gracias
อ่านว่า กร๊า เซียส
แปลว่า ขอบคุณ
ตัว G (เค) เมื่ออยู่กับ A,O,U จะอ่านเป็น กา โก กู
แต่ถ้าอยู่กับ E,I จะอ่านเป็น เค คิ
Y Vos? / Y Tu?
อ่านว่า อีโบส (castellano)
หรือ อีตู๊ (espanol)
แปลว่า แล้วคุณล่ะ
y (อีเกรียกร้า) อ่านว่า อี
แปลว่า และ / แล้ว
Tu / Vos แปลว่า คุณ
ขี้เกียดเขียนแล้วเอาไว้จะมาเขียนใหม่นะ

ภาษาสเปน

ภาษาสเปนนับว่าเป็นอีกหนึ่งในภาษาที่สำคัญและมีประวัติเก่าแก่ภาษาหนึ่งของโลก โดยยูเอ็นจัดให้เป็นหนึ่งในห้าภาษาราชการของโลก(อังกฤษ, ฝรั่งเศส, อาราบิค, จีน และสเปน) และยังถูกจัดให้เป็นภาษาที่มีอิทธิพลเป็นอันดับสามของโลกรองจาก ภาษาอังกฤษ และฝรั่งเศสอีกด้วย
รากภาษาสเปนมาจากภาษาละติน โดยเมื่อหลายพันปีมาแล้วภาษาละตินเริ่มมีใช้กันเฉพาะในกลุ่มราชวงของชาวโรมัน จากนั้นจึงเริ่มใช้กันในกลุ่มทหาร นักเดินเรือ และพ่อค้าที่มาติดต่อกันอาณาจักรโรมันจนมาถึงคนทั่วไป ต่อมาในช่วงที่อาณาจักรโรมันกำลังแพร่ขยายอำนาจ ชาวโรมันจึงได้นำภาษาละตินเข้ามาใช้เป็นภาษาราชการ ทำให้ทางยุโรปตะวันตกล้วนพูดภาษาละตินทั้งสิ้น ต่อมาเมื่ออาณาจักรโรมันเสื่อมสลายลงในช่วงศตวรรษที่5 ทำให้ภาษาละตินซึ่งเป็นภาษาที่ใช้กันมาในยุโรปตะวันตกเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง โดยสำเนียง และคำพูดจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละพื้นที่ จนในที่สุดในช่วงศตวรรษที่15 สำเนียงและคำศัพท์ต่างๆจึงได้กลายมาเป็นภาษาสำคัญสามภาษา นั่นคือ Spanish, Portugal และ French
โดยภาษาสเปนนั้น เริ่มมีการจดบันทึกเอาไว้ก่อนเป็นภาษาแรก ทำให้ต่อๆมาจึงได้นำภาษาเสปนมาประยุกต์ใช้จนกลายมาเป็นภาษาโปรตุเกส และฝรั่งเศสตามลำดับ น่าสนใจมั้ยล่ะงั้นมาลองฝึกพูดดูมั้ย?
Hola! (โอ๊ะลา!) แปลว่าสวัสดี
ส่วนคำนี้ te quiero mucho (เต ไกวโร มูโช) แปลว่า ฉันรักเธอ เอาไว้ไปพูดเทห์ๆกับคนที่คุณรักนะค่ะ

วันพุธที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2552

ร้อน..ร้อน อย่างงี้ ไปเที่ยวทะเลกันมั้ย??
















คำรักจากหนุ่มๆ แต่ละคณะ

เภสัช
แค่ก . . . แค้ก . . . ขอยาให้ผมหน่อย ผมมีอาการ ไอ . . . เลิฟยู

พยาบาล
หน้าที่ของผม คือ เยียวยา พอรักษาหายเธอก็จากไป

สัตวแพทย์
Love me, Love my dog. นิเทศศาสตร์อกหักไม่ใช่เรื่องใหญ่ ยังเล่นใหม่ได้อีกหลายเทค

จิตวิทยา
สะกดจิตเป็นเรื่องง่าย สะกดใจเป็นเรื่องยาก

นิติศาสตร์
โธ่เอ๊ย . . . ความรักนี่ช่างไม่ยุติธรรมเลย

บัญชี
คำนวณตัวเลขอาจใช้เวลาเพียงเสี้ยวนาที แต่คำนวณใจเธอนั้นต้องใช้เวลาเป็นปี

รัฐศาสตร์
หนุ่มรัฐศาสตร์ขอบอกเธอว่า รัก . . . สาด . . . สาด

ครุศาสตร์
ผมสามารถสอนคุณได้ทุกอย่าง แต่มีเรื่องเดียวที่อยากให้คุณสอนผม . . .

อักษรศาสตร์
หว่ออ้ายหนี่ ติอาโม เฌอแตม ไอเลิฟยู รักหลายเด้อ

เศรษฐศาสตร์
ได้ใจเธอคือกำไร เธอไม่สนใจคือเท่าทุน

โครงการพัฒนา
software Hard disk ของเธอมีกี่ "กิ๊ก" ส่งใจไปเท่าไหร่ก็ไม่เต็มซะที

แพทย์
บุหรี่ผมก็ไม่สูบ สุขภาพก็ดูแลดี แต่พอเจอเธอทุกที . . . มีอาการโรคปอดขึ้นทันใด

วิทยาศาสตร์
ความรักไม่มีสูตรตายตัว ศิลปกรรม ปั้นเท่าไหร่ก็ไม่เหมือน เพราะเธอน่ารักขึ้นทุกวัน วิทย์กีฬา ร่างกายแข็งแรง แต่หัวใจอ่อนแอ

สหเวชศาสตร์
ไม่รู้เครื่องเอ็กซเรย์ เสียหรือเปล่า เพราะเอ็กซเรย์ลงไปก็เจอแต่หน้าเธอ

สถาปัตย์
รักออกแบบไม่ได้ ทันตแพทย์ถ้าตรวจฟันผมคงเจอแมงกินฟัน ถ้าตรวจหัวใจผมคงเจอเธอกินใจ

วิศวะ
คณะเราผู้ชายมันเยอะนี่หว่า . . . ดูไปดูมานายก็น่ารักดีนะ

วันอังคารที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

เตียงคอกอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม


สำหรับบ้านไหนที่มีเจ้าตัวน้อยนั้น น่าจะรู้จักเตียงคอกกันดี เพราะคุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนมักจะเลือกใช้เตียงคอกเช่นนี้ให้เด็ก ๆ เพื่อป้องกันการพลัดตกลงมาของลูกน้อย

แต่ทราบหรือไม่ว่าบางครั้งเจ้าเตียงคอกเช่นนี้อาจจะแฝงอันตรายโดยที่คุณอาจจะไม่ทั้นคิดก็ได้เพราะลักษณะของเตียงคอกนั้นจะมี ช่องว่างที่กั้นระหว่างแผงที่กั้นกับเตียงนั้น อาจจะทำให้เจ้าตัวเล็กเข้าไปติดตรงช่องว่างนั้นได้ ทั้งนี้เป็นเพราะเจ้าตัวน้อยนั้น ยังไม่โตนัก ดังนั้นแขน ขา เล็ก ๆ ของเขาอาจจะเข้าไปติดได้

ซึ่งเรื่องนี้ทางฝั่งอเมริกาได้มีการทำการศึกษาแล้วพบว่า แผงกั้นเตียงไม่ได้ช่วยป้องกันการบาดเจ็บต่าง ๆ จึงไม่ควรใช้ เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงแก่ลูกน้อยแทนเสียมากกว่าดังนั้นถ้าบ้านไหนที่เจ้าตัวน้อยโตมากพอแล้วก็แนะนำให้หลีกเลี่ยงแผงกันนะคะ หรือถ้าไม่อย่างนั้นก็เปลี่ยนมาใช้ที่กั้นที่เป็นตาข่ายแทนจะดีกว่า เพราะอย่างน้อย ๆ เจ้าตัวเล็กก็ยังสามารถหายใจได้

วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

Love Love!!..001







Love Love!!..














ของขวัญวันวาเลนไทน์ที่ยอดนิยม


ดอกไม้ ให้ความหมายของการบอกรักได้ดีที่สุด

ที่ฮิตสุดเห็นจะเป็น

- กุหลาบแดง หมายถึง ความรักและความปรารถนา เป็นดอกไม้ของกามเทพ เป็นสิ่งนำโชคมาสู่ผู้หญิงที่ได้รับ

- กุหลาบขาว หมายถึง ความมีเสน่ห์ ความบริสุทธิ์ ความเงียบสงบ และนำโชคมาสู่ผู้หญิงที่ได้รับเช่นเดียวกับดอกกุหลาบแดง

- กุหลาบสีชมพู หมายถึง ความรักที่มีความสุขอย่างสมบูรณ์ที่สุด

- กุหลาบสีเหลืองหรือสีส้ม หมายถึง ความรักร้อนแรงและยาวนาน ไม่จืดจาง หวานชื่น และมีความสุข

- กุหลาบตูม หมายถึง ความรักและความเยาว์วัย

- กุหลาบบาน หมายถึง ความรักที่กำลังเบ่งบาน ความอ่อนหวาน สดชื่น สําหรับคนที่อยากได้อะไรแตกต่างยังมีดอกอื่นๆ อาทิ

- ดอกคาร์เนชั่นสีแดง หมายถึง รักอย่างสุดซึ้ง,

- ดอกลิลลี่สีขาว หมายถึง ความโรแมนติก อ่อนหวานระหว่างคุณและคนรัก,

- ดอกทิวลิปสีแแดง หมายถึง ความรักที่จะร่วมฟันฝ่าไปด้วยกัน และ

- ดอกไวโอเล็ต ที่แทนความหมายของการให้รักตอบแทน

ช็อกโกแลต นักจิตวิทยาหลายคนเชื่อว่า ช็อกโกแลตเป็นตัวช่วยเสริมอารมณ์รัก และรสชาติความหวานก็เป็นสิ่งที่แทนความรู้สึกวันแห่งความรักได้อย่างดี และยังมีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่าในช็อกโกแลตมีสารช่วยกระตุ้นสมองโดยออกฤทธิ์คล้าย แอมเฟตามีน เป็นตัวเบิกทางความรู้สึกลึกๆแห่งรักได้ดี

การ์ด อันนี้เป็นของจําเป็นควบคู่ไปกับดอกไม้ และช็อกโกแลต เลือกตามแบบที่ชอบ เขียนความในใจตามแบบที่อยากให้คนที่ได้รับอ่านแล้วเข้าใจในทันที แถมหาซื้อไม่ยากด้วย

ตุ๊กตา เป็นสิ่งที่ให้กันได้ทุกเทศกาลอยู่แล้ว แต่พิเศษสําหรับวันแห่งความรักคงต้องเลือกสรรให้น่ารัก น่าประทับใจแทนความหมายได้ทุกอารมณ์แล้วแต่คุณจะหยิบแบบไหน

เทียนหอม มาแรงในหมู่หนุ่มสาวชาวไทย ที่สื่อได้ทั้งความหมายจากรูปทรงหัวใจ และให้กลิ่นหอมชวนหลงใหลตามแต่ใครจะเลือกได้ถูกใจอีกฝ่ายแค่ไหน


มื้อค่ำ ขาดไม่ได้เลยสำหรับมื้อพิเศษในวันแห่งความรัก ไม่ว่าจะเป็นสถานที่แบบไหน ในบ้าน ร้านอาหาร หรือริมทะเล แต่ขอให้มีแต่คุณและคนรักไปกันสองคนก็แล้วกัน

ตำนาน คิวปิด วาเลนไทน์


ช่วงนี้คือช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ ซึ่งถ้าจะกล่าวถึงวันนี้ ทุกคนคงทราบดีว่าเป็นวันแห่งความรัก และที่จริงแล้วก็เป็นวัฒนธรรมของทางตะวันตกที่คนไทยเราซึมซับรับมา แล้วก็มาเห่อตามเค้ากัน แต่ไหนๆ ก็เห่อตามกันมาตั้งแต่อดีตแล้ว ก็อยากจะแนะนำถึงประวัติของ 2 องค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับวันวาเลนไทน์ให้เด็กรุ่นใหม่ได้ทราบกันคือ ดอกกุหลาบและคิวปิด เริ่มที่คิวปิดก่อน คนทั่วไปจะรู้จักคิวปิดในภาพของเด็กน่ารักที่มีปีก ในมือถือคันธนูกับลูกศร และมีชื่อเสียงในเรื่องการยิงศรรักปักหัวใจของใครต่อใคร โดยศรรักของคิวปิดหมายถึงความปรารถนาและอารมณ์แห่งความรัก คิวปิดเข้ามามีบทบาทในการเฉลิมฉลองความรักได้ เนื่องจากในตำนานกรีกโบราณ คิวปิดเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่าเอโรส ลูกชายอโฟรไดท์ เทพธิดาแห่งความรักและความสวยงาม แต่สำหรับพวกโรมันเขาคือคิวปิด และแม่ของเขาคือวีนัส โดยที่เรื่องน่าสนใจนั้นเกี่ยวโยงกับทั้งคิวปิด และ "ไซคี" เจ้าสาวของเขาในเทพนิยายโรมัน ซึ่งเธอเป็นเทพธิดารูปงามในนิยายกรีกโบราณมีปีกเป็นผีเสื้อ และเพราะความงามนี้เองที่ทำให้วีนัสอิจฉา นางจึงได้สั่งคิวปิดให้ลงโทษว่าที่ลูกสะใภ้เสีย แต่คิวปิดตกหลุมรักเธอเกินกว่าที่จะทำตามความต้องการของแม่ ดังนั้นแทนที่จะลงโทษเธอ คิวปิดกลับเอาเธอเป็นภรรยาเสียเลย แต่เนื่องจากไซคีมิได้เป็นอมตะ เธอจึงถูกห้ามมิให้มองเขา ซึ่งหลังจากตกเป็นภรรยาของคิวปิดแล้ว ไซคีก็มีความสุขเรื่อยมา จนกระทั่งพี่สาวของเธอได้รบเร้าให้เธอมองคิวปิด ทันทีที่เธอมองคิวปิด คิวปิดก็ลงโทษเธอด้วยการทิ้งเธอไปทันที พร้อมกันนั้นปราสาทและสวนอันสวยงามของเธอก็ต้องมลายหายไปด้วย หลังจากนั้นไซคีก็พบว่าตัวเองอยู่ตามลำพังในทุ่งโล่งแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่มีร่องรอยของสิ่งมีชีวิตอื่นๆ หรือคิวปิดปรากฏให้เห็นเลย และในขณะที่เธอออกเดินทางค้นหาคนรักของเธอนั้น เธอก็มาถึงวิหารของวีนัสโดยบังเอิญ เมื่อวีนัสเทพธิดาแห่งความรักพบว่าไซคียังมีชีวิตอยู่ เธอก็ปรารถนาที่จะทำลายไซคีด้วยการให้งานที่หนักและอันตรายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ งานสุดท้ายที่ไซคีได้รับคือกล่องใบหนึ่ง และได้ถูกสั่งให้ลงไปยังใต้โลกเพื่อเอาความงามของโพรเซอร์พีน ภรรยาของพลูโตใส่กล่องใบนี้มา ในระหว่างที่เธอเดินทางอยู่นั้น เธอก็ได้รับคำแนะนำให้รู้จักการหลีกเลี่ยงอันตรายจากอาณาจักรแห่งความตาย นอกจากนั้นแล้วเธอยังได้ถูกเตือนมิให้เปิดกล่องใบนั้นอีกด้วย แต่เพราะทนไม่ไหวหรือเพราะความอยากรู้อยากเห็น เธอได้เปิดกล่องใบนั้น แต่แทนที่จะพบกับความงาม เธอกลับต้องหลับเป็นตาย ต่อมาคิวปิดได้มาพบร่างอันไร้ชีวิตของเธอบนพื้นดิน เขาจึงได้นำเอาอาการหลับเป็นตายออกจากร่างของเธอและนำมันไปเก็บไว้ในกล่อง หลังจากนั้นคิวปิดก็ได้ให้อภัยเธอเช่นเดียวกับวีนัส เมื่อเทพเจ้าทั้งหลายเห็นความรักที่เธอมีต่อคิวปิด จึงได้ตั้งให้เธอเป็นเทพธิดาองค์หนึ่ง และปัจจุบันนี้รูปคิวปิดแผลงศรเปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งความรักที่ผู้คนมักนิยมใช้กัน

วันศุกร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2552

วิธีแต่งบ้านคลายร้อน


บ้านไหนที่รู้สึกเริ่มร้อน วันนี้มีวิธีแต่งบ้านคลายร้อนมาฝาก...
การแต่งบ้านคลายร้อนมีองค์ประกอบอยู่ 3 อย่างแบบง่าย ๆ คือ ลม น้ำ และต้นไม้ บ้านจะเย็นสบายได้ จะต้องพึ่งลมเป็นอันดับแรก เพราะลมจะช่วยระบายอากาศที่ร้อนอบอ้าวให้คลายลง นอกจากนี้ยังไล่อากาศเสีย กลิ่นอับภายในบ้าน ส่งผลให้คนในบ้านมีสุขภาพดีอีกด้วย
บ้านจะรับลมได้ก็ต่อเมื่อแบบบ้านเอื้ออำนวยให้ลมพัดเข้าบ้านได้ เช่น ประตูเข้าบ้าน ห้องรับแขก ห้องอาหาร ซึ่งเป็นห้องแบบเปิดที่มีช่องประตูหน้าต่างให้ลมเข้าบ้านได้ อยู่ทางทิศใต้ หรือตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นทิศทางลมหลัก โดยเฉพาะหน้าร้อน ที่ลมจะมาทางทิศใต้ ก็จะทำให้บ้านเย็นสบาย โดยไม่ต้องพึ่งแอร์ หรือพัดลมเลย แต่ต้องเปิดประตูหน้าต่าง ช่องประตู หน้าต่างของบ้าน อยู่ในตำแหน่งทางลม จะช่องให้บ้านเย็น
น้ำ พูดถึงน้ำก็เย็นแล้ว เพราะฉะนั้น การเอาน้ำมาแต่งบ้าน จึงกลายเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำพุ น้ำตก หินหมุน ไหล้น หรือแม้แต่ตู้ปลาสักตู้ ล้วนนำความเย็นให้กับบ้านทั้งสิ้น ตำแหน่งที่สามารถวางน้ำได้ก็รอบบ้านเลย ตรงไหนก็ได้ แต่มีข้อแม้ตรงที่ว่าจะต้องอยู่ในตำแหน่งที่คนในบ้านมองเห็น เพราะถ้ามองไม่เห็น ก็ถือว่าไม่ช่วยอะไรเลย น้ำมีผลมากต่อจิตใจของคน เวลาเครียด โมโห หงุดหงิด ลองมานั่งมองน้ำได้ยินเสียงน้ำ สักพักอารมณ์จะดีขึ้น ขนาดน้ำ ยิ่งใหญ่ยิ่งมีผลมาก
ต้นไม้ เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้บ้านเย็น การปลูกต้นไม้ในบ้านมาก จะช่วยลดความร้อนจากแสงแดดที่ส่องเข้าบ้าน โดยเฉพาะต้นไม้ใหญ่ (ถ้ามีพื้นที่มากพอ) จะได้ประโยชน์มาก การดูทิศเพื่อปลูกต้นไม้ ก็จะช่วยแก้ความร้อนได้อย่างถูกจุด เช่น ต้นไม้ใหญ่ควรปลูกทางทิศทางแดด คือ ทิศตะวันออก และตะวันตก ไม่ควรปลูกต้นไม้ใหญ่ทางทิศใต้ หรือตะวันตกเฉียงใต้ เพราะจะบังลมเข้าบ้าน
บ้านไหนที่อยากให้บ้านเย็นสบาย ก็ลองนำวิธีที่แนะนำไปตกแต่งบ้านกันได้.

วันศุกร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2552

อะฟลาท็อกซิน

อะฟลาท็อกซิน (Aflatoxin) เป็นสารพิษเกิดจากเชื้อรา พบปนเปื้อนในอาหารมากที่สุดชนิดหนึ่ง ส่วนใหญ่มักพบในอาหารหรือผลิตภัณฑ์จากถั่วลิสง เช่น ถั่วลิสงดิบ ถั่วลิสงคั่ว หรือถั่วลิสงเคลือบ ทั้งยังพบในถั่วชนิดอื่นๆ รวมถึงข้าวและข้าวโพดด้วย
นอกจากนี้ ยังพบในแป้งต่างๆ รวมทั้งอาหารอบแห้งทั้งหลาย ได้แก่ พริกแห้ง พริกป่น พริกไทย งา ปลาแห้ง กุ้งแห้ง กระเทียม หัวหอม ผักผลไม้อบแห้ง เครื่องเทศต่างๆ หรือแม้แต่สมุนไพร ชา ชาสมุนไพร และกาแฟคั่วบด
สรุปแล้ว "อะฟลาท็อกซิน" ใกล้ชิดกับมนุษย์ชนิดหายใจรดต้นคอ เพราะมีอยู่ในอาหารที่เราบริโภคประจำวัน หากร่างกายได้รับสารพิษชนิดนี้ประจำจะเพิ่มโอกาสเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งตับ ที่ทุกวันนี้ติดอันดับคร่าชีวิตคนไทยมากที่สุดโรคหนึ่ง (คนไทยทุกๆ 100,000 คน เสียชีวิตเพราะมะเร็งตับ 51.7 คน)
เราจะป้องกันหรือหลีกเลี่ยงพิษภัยของอะฟลาท็อกซินได้อย่างไร? นิตยสาร "ฉลาดซื้อ" ฉบับธ.ค.แนะนำดังนี้
1.อะฟลาท็อกซินเติบโตได้ดีในอาหารที่มีความชื้นมากๆ เราสามารถสังเกตเห็นเชื้อราตัวนี้ได้ด้วยตาเปล่า ลักษณะสีเขียวอมเหลืองหรือเขียวเข้ม เมื่อพบถั่วหรืออาหารที่มีราสีเขียวอมเหลืองควรทิ้งให้หมด ห้ามนำมาปรุงอาหารเด็ดขาด
2.อาหารที่แนวโน้มเกิดเชื้อราได้ อย่างพริกแห้ง กระเทียม เครื่องเทศต่างๆ ไม่ควรซื้อมาเก็บตุนไว้ในปริมาณมาก ซื้อเท่าที่จำเป็นต้องใช้ และเก็บไว้ในที่แห้งสนิท ผักผลไม้ก็เช่นกัน
3.หลีกเลี่ยงถั่วลิสงคั่วที่ดูเก่า มีความชื้นหรือมีกลิ่นหืน เพราะมีโอกาสที่จะพบการปนเปื้อนของอะฟลาท็อกซินสูง เป็นไปได้ไม่ควรรับประทานบ่อยหรือรับประทานในปริมาณมาก
4.อาหารที่เกิดจากเชื้อราได้ง่าย ควรเลือกซื้อจากแหล่งผลิตที่ไว้ใจได้ หีบห่อมิดชิด และควรสดใหม่ ไม่เป็นสินค้าที่เก็บค้างไว้นานหลายเดือน อย่าซื้ออาหารที่มีกลิ่นอับหรือกลิ่นหืน ซึ่งแสดงถึงความเก่าเก็บหรือการเก็บรักษาไม่ดี
5.หากสงสัยอาหารมีราขึ้นให้ทิ้งทันที อย่าทิ้งเฉพาะส่วน แม้แต่กระดาษหรือกล่องที่สัมผัสกับอาหารที่ขึ้นราก็ให้ทิ้งด้วย เพื่อป้องกันการปนเปื้อนอาหารอื่น
6.อุปกรณ์เครื่องครัว รวมทั้งเขียงควรล้างให้สะอาด ระหว่างเตรียมอาหารควรซับให้แห้งอยู่เสมอ อย่าให้มีราขึ้น
พึงระลึกไว้เสมอว่า สภาพอากาศร้อนชื้นในบ้านเราเหมาะกับการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์และเชื้อราอย่างยิ่ง จึงต้องใส่ใจเรื่องการเก็บรักษาอาหาร เครื่องครัว ส่วนอาหารตามท้องตลาดก็อย่าลืมหมั่นตรวจสอบความสดใหม่
ปัจจัยเหล่านี้จะช่วยลดอัตราเสี่ยงจากมะเต็งตับอันเกิดจากสารอะฟลาท็อกซินได้